Writing : การเขียน
- ธัญญลักษณ์ ช่วยทัพพระยา
- Oct 15, 2020
- 1 min read
การเขียนเป็นทักษะสำคัญในการสื่อสารของมนุษย์ เพราะนอกจากจะใช้ถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์ไปยังผู้อ่านแล้ว ยังใช้เป็นเครื่องมือสำหรับจดบันทึกเรื่องราวและข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังอีกด้วย

ความหมายและความสำคัญของการเขียน
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554(2556: 212) ได้กล่าวไว้ว่า
"เขียน" หมายถึง ขีดให้เป็นตัวหนังสือหรือเลข, ขีดให้เป็นเส้นหรือรูปต่าง ๆ, แต่งหนังสือ
การเขียน - เป็นการสื่อสารความรู้ ข้อเท็จจริง ความเข้าใจ จินตนาการ อารมณ์ และความคิดเห็นระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เป็นวิธีการสื่อสารที่ได้ผลดีและสะดวกรวดเร็วสามารถส่งไปไกลได้ทั่วโลก | เสาวณีย์ สิกขาบัณฑิต (2533: 7)
จากความหมายทั้งหมดสรุปว่า การเขียนเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ จินตนาการ และอารมณ์ต่าง ๆ ผ่านสื่อที่เป็นตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่สามารถสื่อความหมายให้ผู้อื่นได้ทราบและเข้าใจ
การเขียนมีความสำคัญต่อมนุษย์หลายประการ สรุปได้ดังนี้
การเขียนเป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมและทางด้านสติปัญญาของมนุษย์จากสมัยหนึ่งไปสู่อีกสมัยหนึ่ง
การเขียนเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้และเกียรติยศให้กับบุคคลได้
การเขียนแสดงออกถึงบุคลิกภาพและภูมิปัญญาของผู้เขียน ในด้านความรู้ ความคิด และความรู้สึก
เทคนิค การเขียนบทความ อย่างไรให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
ในปัจจุบันการเขียนบทความไม่ว่าจะสั้น หรือยาวนับว่ามีความสำคัญในด้านการทำธุรกิจ การทำเว็บไซต์ หรือการขายสินค้า ล้วนจำเป็นต้องมีบทความเพื่อดึงดูดความสนใจ หรือสร้างความรู้สึกโดนใจให้กับผู้อ่านมากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การเขียนบทความสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจ หรือการสนับสนุนธุรกิจได้เป็นอย่างดี

1. กำหนดจุดประสงค์ของเรื่องก่อนเขียน
การเขียนจะบรรลุผลตามวัตถุประสงค์หรือไม่นั้น สิ่งสำคัญที่ผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงคือ "จุดมุ่งหมายในการเขียน" ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้
เขียนเพื่อเล่าเรื่อง - นำเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เป็นลำดับอยู่แล้วมาถ่ายทอดเป็นข้อเขียน สิ่งสำคัญของการเขียนเล่าเรื่อง คือ จะต้องคำนึงถึงความถูกต้องตามความเป็นจริง และเล่าตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เขียนเพื่ออธิบาย - การเขียนเพื่อชี้แจง อธิบาย มีวัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจและปฏิบัติตามได้ เช่น อธิบายวิธีใช้ วิธีทำ ขั้นตอนการทำ อธิบายวิธีใช้เครื่องมือ โดยต้องระวังเรื่องการใช้ภาษา ต้องใช้ภาษาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และเป็นไปตามลำดับขั้นตอน
เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น - การเขียนประเภทนี้เป็นการเขียนเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ แนะนำ หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรืออาจมีข้อเสนอแนะประกอบด้วย โดยต้องคำนึงถึงพื้นฐานของข้อเท็จจริง และต้องมีหลักการเหตุผล เช่น การเขียนบทความ การเขียนบทวิจารณ์ และการเขียนบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
เขียนเพื่อการสร้างจินตนาการ - เป็นการเขียนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อ่านมีอารมณ์คล้อยตามและเกิดจินตนาการภาพตามที่ผู้เขียนต้องการ ต้องใช้ถ้อยคำภาษาที่ปราณีต งดงาม สามารถสื่อสารอารมณ์ และความรู้สึกให้เกิดกับผู้อ่านได้
เขียนเพื่อโน้มน้าวใจ - มีจุดประสงค์เพื่อชักจูง โน้มน้าวใจผู้อ่านยอมรับในสิ่งที่ผู้เขียนเสนอ เช่น การเขียนโฆษณา การเขียนคำขวัญ ภาษาที่ใช้จะต้องเป็นภาษาที่สั้น กระชับรัดกุม สะดุดใจผู้อ่าน อาจเล่นคำ สำนวน เพื่อให้เกิดความคล้องจองทำให้ผู้อ่านจดจำได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เขียนเพื่อล้อเลียนเสียดสี - การเขียนเพื่อล้อเลียนเสียดสีเป็นการเขียนเพื่อจะตำหนิสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจเป็นบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ ภาษาที่ใช้ในการเขียนต้องสุภาพ นุ่มนวล อาจแทรกอารมณ์ขันทำนองยั่วล้อด้วยถ้อยคำ หรือเรื่องราว
เขียนเพื่อกิจธุระ - เป็นการเขียนที่ผู้เขียนมีจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง การเขียนชนิดนี้มีรูปแบบการเขียน และลักษณะที่ใช้แตกต่างกันไปตามประเภทของงานเขียน เช่น เขียนหนังสือราชการ จดหมายธุรกิจ และการเขียนประกาศแจ้งความ เป็นต้น
2. ใช้หลัก 5 W+1H
การใช้หลักการ
Who - ใคร
What - ทำอะไร
Where - ที่ไหน
When - เมื่อไหร่
Why - ทำไม
How - ทำได้อย่างไร
เข้ามาช่วยในการอธิบายเพื่อสร้างจินตนาการให้กับผู้อ่านได้อย่างเป็นขั้น เป็นตอนที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องราวที่ได้อ่านง่ายขึ้น ซึ่งวิธีนี้มักถูกใช้อย่างมากมายในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านการทำภาพยนตร์ การเขียนนิยาย หรือแม้แต่การทำรายการทีวีทั่วไป ก็เลือกวิธีนี้ในการสร้างเรื่องราวให้น่าสนใจและทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น
3.คิดโครงเรื่องคร่าว ๆ ก่อน
หากเราได้จุดประสงค์ที่ต้องการเขียน หรือแนวทางในการเขียนที่เราอยากจะเขียนแล้ว สิ่งต่อมาที่เราจะต้องทำก็คือการวางโครงเรื่อง อาจเขียนเป็นหัวข้อหรือเรื่องย่อสั้น ๆ ว่าเนื้อเรื่องเราจะดำเนินเรื่องอย่างไร เริ่มต้นอย่างไร ช่วงกลางของเรื่องจะมีเนื้อหาอย่างไร และจบเรื่องอย่างไร จากนั้นเราก็จะมาเขียนรายละเอียดของเรื่องคร่าวๆ อีกทีว่าแต่ละช่วงของเราจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เรื่องที่เราจะเขียนหลุดประเด็น เช่น ไปทานอาหารร้านไหนและมีอะไรเกิดขึ้นในร้านบ้าง หรือมีการพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้างระหว่างรับประทานอาหาร เป็นต้น
4.สรุปจบให้ตราตรึงใจ
นอกจากการเริ่มต้นการเขียนเรื่องราวที่ดีแล้ว การสรุปจบเรื่องราวที่คุณได้เขียนให้ตราตรึงใจก็สามารถสร้างรู้สึกดีๆ ให้กับผู้อ่านได้เช่นกัน ซึ่งตอนจบอันตราตรึงใจที่คุณต้องสร้างขึ้นมานั้น ต้องสามารถทำให้ผู้อ่านเกิดความตราตรึงใจ สามารถมัดใจของผู้อ่านให้เกิดความรู้สึกชื่นชอบบทความ หรืออยากติดตามบทความของคุณอีกต่อไปในอนาคต
Commentaires